เปิดงานยิ่งใหญ่ เทศกาล “สีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง 2567” คลองผดุงกรุงเกษมThumbnail div not found.รมว.ท่องเที่ยวเปิดงานเทศกาล “สีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง” ณ คลองผดุงกรุงเกษม กรุงเทพมหานคร ชวนนักท่องเที่ยวลอยกระทงอย่างสร้างสรรค์และใส่ใจสิ่งแวดล้อม เย็นนี้ (15 พฤศจิกายน 2566) นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “สีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง” ณ คลองผดุงกรุงเกษม (ย่านหัวลำโพง) กรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดเต็มแสงสี Lighting Installation แต่งแต้มคลองผดุงกรุงเกษม ชูแนวคิด “มหัศจรรย์ สีสันแห่งศรัทธา” ตระการตาด้วยขบวนแห่นางนพมาศทางน้ำ โดย ‘ญาญ่า – อุรัสยา เสปอร์บันด์’ สร้างสีสันบนผืนน้ำด้วยไฮไลต์สายธารประทีป 5 พื้นที่เอกลักษณ์ ได้แก่ เชียงใหม่ สุโขทัย ตาก สมุทรสงคราม และร้อยเอ็ด พร้อมผสานเทคโนโลยีทันสมัยให้ลอยกระทงอย่างสร้างสรรค์ สะท้อนคุณค่าความเป็นไทยและใส่ใจสิ่งแวดล้อม นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า เทศกาลลอยกระทง ถือเป็น 1 ใน 7 Wonders in Thailand บิ๊กอีเวนต์สำคัญในช่วงปลายปีภายใต้โครงการ “Thailand Winter Festivals 2024” ซึ่งรัฐบาลได้ร่วมกับพันธมิตรภาครัฐและเอกชนจัดกิจกรรมและอีเวนต์อย่างต่อเนื่อง เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศให้เดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทย และผลักดันให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวยอดนิยมของโลกในช่วงปลายปี โดย “งานสีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง” ในวันที่ 13-16 พฤศจิกายน 2567 ณ คลองผดุงกรุงเกษม ย่านหัวลำโพง กรุงเทพมหานคร และประเพณีลอยกระทงที่ได้มีการจัดขึ้นทั่วประเทศไทยเป็นประเพณีสำคัญที่เป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทยมาอย่างยาวนาน สะท้อนอัตลักษณ์ท้องถิ่นบนรากฐานทางวัฒนธรรมหรือเสน่ห์ไทย (Soft Power) และในหลายพื้นที่ได้มีสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยนวัตกรรมที่จะทำให้เทศกาลลอยกระทงเป็นไปอย่างสร้างสรรค์และคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเพื่อสร้างความยั่งยืน โดยเทศกาลลอยกระทงอยู่ในช่วงเวลาที่เป็นฤดูแห่งการท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนประเทศไทยจำนวนมาก จะช่วยส่งเสริมยกระดับเทศกาลงานประเพณีไทยสู่งานเทศกาลระดับโลก (Local to Global ) งานเทศกาล “สีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง” ในปีนี้ ททท. เนรมิตบรรยากาศแห่งความสุขและความสวยงาม นำเสนอประเพณีลอยกระทงรากฐานทางวัฒนธรรมที่เปี่ยมด้วยเสน่ห์ไทยอันทรงคุณค่า ต่อยอดด้วยสื่อผสมและเทคโนโลยีทันสมัย เพื่อแต่งแต้มสีสันคลองผดุงกรุงเกษมในคืนวันเพ็ญ ด้วยแนวคิด “Amazing Night of lights : Loi Krathong Festival” เฉลิมฉลองประเพณีลอยกระทง ด้วยขบวนแห่ประเพณีลอยกระทงและนางนพมาศทางน้ำ นำขบวนโดย ‘ญาญ่า – อุรัสยา เสปอร์บันด์’ ในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 เวลา 19.00 น. ให้เห็นถึงความสง่างามของประเพณีลอยกระทงไทย จัดเต็มการแสดงกระทงประดับไฟ “Lighting Illumination Show” ของ 5 พื้นที่เอกลักษณ์ ได้แก่ ประเพณียี่เป็ง จังหวัดเชียงใหม่ ประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีป ๑๐๐๐ ดวง จังหวัดตาก ประเพณีลอยกระทงเผาเทียน เล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย ประเพณีลอยกระทงกาบกล้วยเมืองแม่กลอง จังหวัดสมุทรสงคราม และประเพณีสมมาน้ำ คืนเพ็ง เส็งประทีป จังหวัดร้อยเอ็ด และการตกแต่งประดับไฟแสงสีทั่วบริเวณริมคลองผดุงกรุงเกษม เพลิดเพลินกับการแสดงทางวัฒนธรรม และการแสดงร่วมสมัยที่น่าสนใจ กิจกรรมประกวดนางนพมาศ การสาธิตอาหารไทยโบราณที่หาชิมได้ยากและจำหน่ายอาหารไทย พร้อมจัดเต็มความสนุกสนานด้วยการแสดงจากศิลปินชื่อดัง ได้แก่ กองทัพ พีค, LANDOKMAI, กลัฟ คณาวุฒิ x กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่, กัน นภัทร
นอกจากนี้ ททท. ยังได้สนับสนุนและประชาสัมพันธ์การจัดงานประเพณีลอยกระทง 5 พื้นที่อัตลักษณ์ทั่วประเทศ ได้แก่ ประเพณียี่เป็ง จังหวัดเชียงใหม่ วันที่ 14-17 พฤศจิกายน 2567 ประเพณีลอยกระทงเผาเทียน เล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย วันที่ 8 - 17 พฤศจิกายน 2567 ณ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย และอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย ประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีป ๑๐๐๐ ดวง จังหวัดตาก วันที่ 15 - 18 พฤศจิกายน 2567 ณ ริมสายธารลานกระทงสาย เชิงสะพานสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี ประเพณีลอยกระทงกาบกล้วยเมืองแม่กลอง จังหวัดสมุทรสงคราม วันที่ 15-17 พฤศจิกายน 2567 ณ บริเวณสองฝั่งน้ำแม่กลอง ได้แก่ ฝั่งอุทยาน ร.2 และฝั่งวัดภุมรินทร์กุฎีทอง และประเพณีสมมาน้ำ คืนเพ็ง เส็งประทีป จังหวัดร้อยเอ็ด วันที่ 14-15 พฤศจิกายน 2567 ณ สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ด
ทั้งนี้ ในช่วงเทศกาลลอยกระทงปีนี้ซึ่งตรงกับวันศุกร์และติดกับวันหยุดสุดสัปดาห์ จะเป็นแรงหนุนให้นักท่องเที่ยวออกมาร่วมงานลอยกระทงมากขึ้นและต่อเนื่องไปถึงการเดินทางท่องเที่ยวในวันหยุด โดยคาดว่าในพื้นที่การจัดงานกรุงเทพมหานคร จะมีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย 330,450 คน-ครั้ง สร้างรายได้ 1,371 ล้านบาท ขณะที่คาดว่าในช่วงเทศกาลทั่วประเทศจะมีจำนวนผู้เยี่ยมชาวไทยประมาณ 1.99 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 9 จากปีที่ผ่านมา และสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวอยู่ที่ 6,990 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 12 เมื่อเทียบกับปี 2566 โดยคาดว่าภูมิภาคภาคเหนือจะมีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยมากที่สุด ประมาณ 568,740 คน-ครั้ง และสร้างรายได้ 2,556 ล้านบาท จากปัจจัยหนุนของสภาพอากาศที่เริ่มเข้าสู่หน้าหนาว เหมาะกับการเดินทางท่องเที่ยวพักผ่อน และการจัดกิจกรรมต่าง ๆ รวมถึงแคมเปญ “แอ่วเหนือ...คนละครึ่ง” และรองลงมา ได้แก่ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ ตามลำดับ |